02-056-3333
ศูนย์รักษาโรค> รอบรู้เรื่องตา

Dry Eyes โรคฮิตของชาวโซเชียล

            ถ้าคุณรู้สึกระคายเคืองมองไม่ชัด กะพริบตาแล้วรู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในตา หลับตาแล้วน้ำตาไหล ในบางรายอาจไม่มีอาการข้างต้น แต่มีอาการอื่นแทน เช่น หนังตาหนัก คล้ายง่วงนอนตลอดเวลา เหล่านี้คืออาการเบื้องต้นของโรคตาแห้ง แม้ไม่อันตราย แต่ก็สร้างความรำคาญไม่น้อย
 

มีน้ำตา ก็ตาแห้งได้

          โรคตาแห้ง ไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่ร่างกายผลิตน้ำตาน้อยเท่านั้น ปัจจุบันพบว่ามีหลายรายที่ตาแห้งมากแต่กลับมีน้ำตาเยอะ ที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำตาถูกผลิตออกมาเพื่อชดเชยส่วนที่ระเหยไปและมีตาอักเสบ นอกจากนี้ตาแห้งจากต่อมไขมันในชั้นเปลือกตาทำงานลดลงก็เป็นสาเหตุหลักเช่นกัน โดยปกติต่อมผลิตน้ำตามีทั้งหมด 3 ชั้น  ชั้นในสุดเป็นเมือกที่เคลือบลูกตา ชั้นกลางเป็นชั้นน้ำตาและชั้นบนสุดเป็นชั้นฟิล์มน้ำมันที่สร้างจากต่อมไขมันที่เปลือกตา ซึ่งมีลักษณะเหมือนฟิลม์ป้องกันไม่ให้น้ำตาระเหย ในกรณีที่ต่อมไขมันในเปลือกตาทำงานผิดปกติ เคลือบผิวตาไม่ดี จะทำให้น้ำตาระเหยไว โดยเฉพาะคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เพราะการกะพริบตาลดลงไปถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว จากภาวะปกติ ทำให้ตาแห้งมากขึ้น
 

เลี่ยงคอมฯ ไม่ได้ทำไงดี

            โรคตาแห้งที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ หรือที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) ซึ่งไม่ได้มีแค่อาการตาแห้งหรือปวดกระบอกตาเท่านั้น แต่จะปวดต้นคอและหัวไหล่ด้วย วิธีแก้ที่ง่ายสุดคือ เว้นระยะสายตาจากคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-24 นิ้ว จัดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 10-20 องศา เพราะยิ่งเงยหน้ามองจอ น้ำตาจะระเหยเร็ว ควรนั่งตัวตรง เอนไปทางด้านหลังเล็กน้อย มือขนานกับพื้น เท้าวางราบ สิ่งแวดล้อมก็สำคัญ ไฟในห้องควรสว่างเท่ากับหน้าจอ  ในกรณีที่ใช้โคมไฟห้ามจ่อเข้าคอมพิวเตอร์โดยตรงหรือส่องจากหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ปวดตาและตาแห้งมากขึ้น ควรใช้ตัวหนังสือให้ใหญ่ประมาณ 3 เท่าจากขนาดที่เล็กที่สุดที่คุณสามารถอ่านได้จากคอมพิวเตอร์ในระยะเดียวกัน ในกรณีที่คุณใส่คอนแทคเลนส์ ควรพักเบรกครั้งละ 5-15 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
 

ปวดกระบอกตา อาการเตือนของสารพัดโรคร้าย

            โรคตาแห้งจะมีอาการปวดกระบอกตาเพราะทำให้ตาล้า นอกจากนี้การปวดกระบอกตายังเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าคุณอาจเป็นโรคตา เช่น ต้อหิน ควรวัดความดันลูกตา ถ้าพบว่าความดันลูกตาสูงต้องรักษาต้อ วิธีการรักษาจะขึ้นกับความรุนแรง นอกจากนี้อาจเพราะมีการอักเสบต่างๆ ในลูกตา เช่น ม่านตาอักเสบหรือเส้นประสาทตาอักเสบ อีกทั้งควรเช็คเรื่องการมองเห็น บางคนใช้แว่นตาไม่ตรงกับค่าสายตา ก็ทำให้ปวดกระบอกตาได้เช่นกัน จึงควรปรับค่าสายตาให้ตรงกับแว่น สุดท้ายบางรายอาจมาด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อตาเพราะมองแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กรณีนี้คุณหมอจะให้ฝึกเรื่องการมอง โดยหัดมองจากไกลแล้วเข้ามาใกล้ร่วมกับการใช้น้ำตาเทียม อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
 

ตาแห้งแก้ไม่ยาก

            เริ่มแรกคุณหมอจะตรวจว่าเกิดจากอะไร ถ้าเป็นเพราะต่อมไขมัน จะใช้วิธีรักษาต่อมไขมันที่อุดตัน ซึ่งจะมีการประคบอุ่น นวด และทำความสะอาดบริเวณเปลือกตา โดยปกติต่อมไขมันต้องใส ไม่มีสี ในกรณีที่ผิดปกติต่อมไขมันจะมีลักษณะเป็นน้ำสีเหลือง ถ้าหนักหน่อยจะมีสีเหลืองขุ่นเหมือนมีตะกอน ถ้ารุนแรงมากจะข้นจนบีบออกมาเหมือนยาสีฟัน นอกจากการประคบอุ่นแล้ว บางรายอาจต้องกินยาแก้อักเสบรวมทั้งทำความสะอาดบริเวณต่อมไขมันด้วย ถ้าต่อมไขมันปกติ คุณหมอจะตรวจปริมาณน้ำตาแทน ถ้าปริมาณน้ำตาน้อยอาจต้องเติมน้ำตาเทียม ซึ่งมีหลายชนิด เช่น น้ำตาเทียมชนิดขวดใช้ได้ 1 เดือน หยอดได้วันละไม่เกิน 6 ครั้ง กับที่เป็นหลอดเล็กๆ  ใช้ได้ 24 ชั่วโมง แนะนำว่าควรใช้แบบหลอดเล็กเพราะไม่มีสารกันบูด เนื่องจากสารกันบูดเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาแห้งถ้าใช้สะสมไปนานๆ   โดยแบบหลอดเล็กยังสามารถใช้ได้บ่อยตามที่ต้องการ สุดท้ายนี้อย่าลืมว่าควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง ตาของคุณจะได้กลับมาใสแจ๋วเช่นเคย
 
“คนไข้บางคนเข้าใจผิดคิดว่าการหยอดน้ำตาเทียมจะไปหยุดวงจรการสร้างน้ำตา ซึ่งไม่จริงเพราะน้ำตายังสร้างได้ปกติ การใช้น้ำตาเทียมก็เป็นตัวช่วยที่ดีในกรณีตาแห้ง ที่สำคัญคือถ้ามีอาการตาอักเสบ ควรรีบมาพบแพทย์ อย่าซื้อยาสเตียรอยด์มาหยอดด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะถ้าตามีการติดเชื้อจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น  และถ้าใช้ยาสเตียรอยด์ไปนานๆ อาจกลายเป็นต้อหินและต้อกระจกได้"