02-056-3333
ศูนย์รักษาโรค> รอบรู้เรื่องตา

ต้อหิน (นพ.นนท์ รัตนิน)

โรคต้อหินเกิดมาจากอะไร                      

อาการของโรคคือต้อหินที่พบโดยมาก จะไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต้อหินก็คือกรรมพันธุ์และอายุที่เพิ่มมากขึ้น พบว่าคนไข้ที่เป็นต้อหินส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ โรคต้อหินเป็นภาวะที่ความดันภายในตาสูง เมื่อความดันในตาสูง เมื่อเอามือไปคลำที่ดวงตาก็จะมีลักษณะแข็งเหมือนหินเลยเรียกว่า ต้อหิน  

ต้อหินมีกี่ประเภท

ต้อหินแบ่งเป็น 2 ชนิด คือต้อหินแบบเปิด และต้อหินแบบปิด 
1. กรณีต้อหินแบบเปิด คือน้ำสร้างเข้ามาแต่ออกไม่ได้  เมี่อน้ำเข้าได้แต่น้ำออกไม่ได้จะทำให้ความดันภายในลูกตาเพิ่มสูงขึ้น ประสาทตาก็จะค่อย ๆ ถูกทำลายไปเรื่อย ๆ โดยทั่วไปจะใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี และสุดท้ายก็จะเสียไปหมด ผู้ป่วยก็จะมองไม่เห็นแสง 
2. กรณีต้อหินแบบปิด ปกติบริเวณทางระบายหรือเรากว่ามุมม่านตาโดนปิดโดยม่านตา ความดันตาจะขึ้นและมีการ    ทำลายประสาทตาซึ่งมีความรุนแรงก็พอ ๆ กัน                       

วิธีการรักษาต้อหิน         

กรณีต้อหินแบบเปิด

จะใช้ยาหยอดตาลดความดันตา นอกจากการใช้ยาจะมีการยิงเลเซอร์ โดยจักษุแพทย์จะใส่เลนส์ลงไปวางบนตาแล้วจึงยิงเลเซอร์ผ่าเลนส์ไปตรงบริเวณที่เป็นทางระบายน้ำออก เพื่อให้มีการระบายออกได้ดีขึ้น ถัดจากเลเซอร์ไปก็จะมีการผ่าตัด ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมความดันตาได้ด้วยยาหรือเลเซอร์  ซึ่งการผ่าตัดที่นิยมทำกันมากที่สุดก็คือ การทำทางระบายน้ำ โดยการเจาะรูช่องทางให้น้ำออกมา ตราบใดที่รูนี้ยังไม่ปิดยังไม่มีการตันความดันตาก็จะไม่สูง เพราะฉะนั้นการผ่าตัดไม่ใช่การรักษาที่ทำครั้งเดียวแล้วหายได้ หลังผ่าตัด ผู้ป่วยยังคงต้องตรวจติดตามเป็นระยะๆอีกครั้ง

กรณีต้อหินแบบปิด

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นเรื่องกลไกการเกิดต้อหินแบบปิดนั้น คือมีบริเวณที่เป็นม่านตายกขึ้นมาปิดบริเวณทางออก จักษุแพทย์จะทำการยิงเลเซอร์เพื่อเป็นการป้องกันและการรักษา ในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคต้อหินแต่หลังจากที่ตรวจแล้วมีโอกาสที่จะเป็นต้อหินแบบปิด จักษุแพทย์จะแนะนำให้ยิงเลเซอร์ป้องกันไว้ก่อน ส่วนการหยอดยาและการผ่าตัดก็จะเหมือนต้อหินแบบเปิด                  

สัญญาณที่จะบ่งบอกว่าเป็นโรคต้อหินและควรมาพบจักษุแพทย์     

โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการปวดตาเพราะความดันตาขึ้นสูง ผู้ป่วยถึงจะมาพบจักษุแพทย์ แต่โดยทั่วไปส่วนใหญ่ผู้ป่วยต้อหิน ความดันตาสูงไม่มากผู้ป่วยก็จะไม่มีอาการปวดตา ผู้ป่วยมักจะมาด้วยเรื่องตามัวเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นต้อหินระยะท้ายๆ จึงขอแนะนำว่าควรจะตรวจตาทุกปี เพื่อว่าสามารถเห็นต้อได้ในระยะเริ่มแรก การรักษาระยะแรกก็จะรักษาได้ง่ายกว่า และก็มีผลการรักษาที่ดีกว่าการปล่อยให้เป็นเยอะแล้วจึงมาพบจักษุแพทย์

เพราะฉะนั้นไม่ได้มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าเราอยู่ในภาวะที่เราจะเป็นโรคต้อหิน แต่การที่ดีที่สุดที่แนะนำคือการที่จะตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี

บทความโดย : นพ. นนท์ รัตนิน