สาเหตุของโรคมะเร็งในจอประสาทตาในวัยเด็ก เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุ
1. คือเกี่ยวกับเรื่องของพันธุกรรม ประมาณ 40% ของเด็กที่มีมะเร็งจอประสาทตา 60% ของผู้ป่วย2. ส่วนมากจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ Eye Cancer ส่วนใหญ่เราจะพบในเด็กอายุประมาณ 0-3 ขวบ หลังจาก5ขวบไปแล้ว โอกาสที่จะเป็นมะเร็งถือว่าน้อยมาก
มะเร็งจอประสาทตาเกิดขึ้นที่ตัวจอประสาทตาเอง ซึ่งจอประสาทตาเป็นเยื่อบางๆที่บุด้านหลังของลูกตาของเรา ทำหน้าที่เหมือนกับฟิล์มในกล้องถ่ายรูป รับแสงและส่งภาพไปที่สมอง มะเร็งเวลาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นที่ลูกตาเองและจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากที่เป็นเม็ดเล็กๆประมาณ 1 – 2 มิลลิเมตร จนเต็มลูกตาได้ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจนเกินไป ถ้าคิดว่าสายตาของผู้ป่วยหายไปหรือเลือนลางไปในตาใดตาหนึ่ง แต่อีกตายังคงทำงานได้ปกติ เด็กจะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองสายตาไม่ดี เพราะฉะนั้นผู้ปกครองต้องคอยหมั่นสังเกตุว่าตาของเด็ก จะมองเห็นตาวาวตรงส่วนตาเป็นสีขาวที่ในตาดำ ซึ่งเกิดขึ้นจากก้อนเนื้อ ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะโตจากข้างหลังตาขึ้นมา เพื่อให้เรามองเห็นจากด้านหน้าได้ การที่ตาลูกนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะฉะนั้นตาก็เลยจะไม่อยู่ตรง อาจจะเขเข้าได้
วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค
ถ้าเด็กมีก้อนเล็กๆอยู่ เราสามารถที่จะยิงเลเซอร์ หรือใช้ไฟเย็นจี้ในบริเวณที่มีก้อนเนื้อให้มันฝ่อไปได้ แต่ส่วนใหญ่เด็กจะมาหาจักษุแพทย์ในตอนที่ก้อนเนื้อเต็มลูกตา หรือค่อนข้างจะใหญ่ในลูกตาแล้ว ถ้าอย่างนี้จักษุแพทย์จะทำการรักษาโดยวิธีคีโมบำบัดการให้คีโมบำบัดอาจจะทำให้ก้อนเนื้อนี้หดตัวลง ถึงขั้นที่อาจจะใช้เลเซอร์รักษาได้ วิธีการป้องกันโรคค่อนข้างจะลำบาก ถ้าผู้ปกครองของเด็กมีมะเร็งชนิดนี้ใน 2 ตา โอกาสที่ลูกจะมีก็จะประมาณ 40 - 50% เพราะฉะนั้นถ้าผู้ป่วยมะเร็งจอประสาทตามีบุตร จักษุแพทย์จะตรวจอย่างละเอียดตั้งแต่เด็กเกิดมา โดยการขยายม่านตาตรวจดูในตา ถ้าจักษุแพทย์พบตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่มะเร็งยังเล็กๆอยู่ การรักษาก็ค่อนข้างจะง่ายดาย